14 ธ.ค. 2554

เทคโนโลยีของเว็บไซต์์

􀂄 Web 1.0 ผู้เข้าชมสามารถอ่านได้อย่างเดียว (Read-only) เป็นเทคโนโลยีเว็บไซต์ที่
สามารถแก้ไขข้อมูลหน้าตาของเว็บไซต์ได้เฉพาะผู้ดูแลเว็บไซต์ (Webmaster) เป็น
เว็บไซต์ที่ผู้เข้าเยี่ยมชมไม่สามารถมีส่วนร่วมกับเว็บไซต์ดังกล่าวได้ ถือว่าเป็นเว็บ
รุ่นแรกของเทคโนโลยีเว็บไซต์ ส่วนมากจะใช้ภาษา html เป็นภาษาสำหรับการพัฒนา
􀂄 Web 2.0 ผู้เข้าชมสามารถอ่านและเขียนได้ (Read-Write)เป็นเทคโนโลยีเว็บไซต์ที่
พัฒนาต่อจาก Web1.0 เป็นเทคโนโลยีเว็บไซต์ที่สามารถโต้ตอบกับผู้ใช้งานได้
เช่น เว็บบอร์ด เว็บบล็อก (Weblog) วิกีพีเดีย (Wikipedia) เป็นต้น ซึ่ง Web 2.0 จะ
ใช้ฐานข้อมูลมาเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีนี้ด้วย
􀂄 Web 3.0 ผู้เข้าชมสามารถอ่าน เขียนและจัดการ(Read-Write-Execute) เทคโนโลยี
เว็บ 3.0 คือจากที่ผู้ใช้จะเข้าไปอ่านและเพิ่มข้อมูล ผู้ใช้ก็จะสามารถปรับแต่งแก้ไข
ข้อมูลหรือระบบได้เองอย่างอิสระมากขึ้น ซึ่งในส่วนของเว็บ 3.0 นั้นในเมืองไทย
กำลังจะนำมาใช้งานในอนาคต เทคโนโลยีบางอย่างที่คาดว่าจะถูกนำมาใช้ใน Web
3.0 ได้แก่
- Artificial Intelligence (AI)  แปลตามพจนานกรมมันคือ ปัญญาประดิษฐ์ หรือที่
เรียกกันว่า สมองกล เป็นสมองกลแบบเดียวกันในหุ่นยนตร์นี่เอง มันจะเป็นจุดเด่น
ที่จะทำให้เว็บเราตอบสนองผู้ใช้งานได้อย่างชาญฉลาด หรือถึงขั้นที่ว่ารู้ความ
ต้องการของผู้ใช้ และแสดงข้อมูลออกมาได้อย่างตรงใจ ตัวอย่างที่มีการนำมาใช้
งาน เช่น Search Engine Google เมื่อเราต้องการค้นหาข้อมูลด้วยคำว่า Thailand
แล้วสะกดผิด Google สามารถรู้ได้ว่าคำที่เราต้องการค้นหาคือคำว่า Thailand เป็นต้น
Semantic Web and SOA (Service-oriented architecture) SOA เป็นเรื่องของการ
แลกเปลี่ยนข้อมูลกันระหว่างระบบที่ต่างกัน เช่น เว็บ TOSDN ทำให้เกิดฐานข้อมูล
ของโลกขึ้นมาโดยข้อมูลทั้งหมดจะเข้าถึงกัน ไม่เฉพาะแค่ตัวอักษรเท่านั้น แต่จะรวม
ไปถึงข้อมูลรูปภาพ ภาพเคลื่อนไหว เสียงที่เราสามารถค้นหาได้โดยไม่ต้องพึ่งการค้นหาโดยพิมพ์ Keyword แบบเก่าๆ เช่น อยากค้นหาคนที่หน้าเหมือนผู้ใช้งานก็เอารูปผู้ใช้งานไป ค้นหา จากนั้นมันจะไปเทียบหน้า แล้วแสดงหน้าคนเหมือนผู้ใช้ออกมาหรือต้องการเพลงที่มีทำนองแบบไหน ก็เอาเพลงไปค้นหา แล้วมันก็จะแสดงเพลงที่มีทำนองเดียวกัน หรือลักษณ์ใกล้กันออกมา
 3D หรือ Web3D Consortium ปกติเราเห็นเว็บเป็นหน้าเรียบ ๆ แบบ 2 มิติ (2D)
แต่ใน Web 3.0 อาจจะได้เห็น 3 มิติ (3D) เช่น ต้องการซื้อของในเว็บไซต์ ผู้ใช้ก็
ให้ตัวเราในเว็บที่เป็น 3D เดินเข้าร้านไปซื้อของในร้านค้าโลกออนไลน์ โดย
ระหว่างซื้อก็สามารถสนทนาถึงเรื่องสินค้าและร้านนั้นได้ เช่น Dzzd.net
- Composite Applications เป็นการผสมบริการระหว่างกัน เช่น การดึงบริการ
จากเว็บไซต์รูปแบบหนึ่ง มาใช้งานในเว็บไซต์อื่นๆ ได้ด้วยเสมือนเป็นเว็บไซต์เดียวกัน
- Metadata (Data About Data) คือ การอธิบายข้อมูลด้วยข้อมูล โดยมันจะทำการ
คำนวณว่าข้อมูลที่ใช้งานอยู่มีข้อมูลใดสัมพันธ์กันบ้างที่สามารถอธิบายข้อมูล
ตัวมันเองได้ เช่น ดูข้อมูลของ Tosdn มันก็จะมีข้อมูลที่เกี่ยวข้องกันคือ Php, Asp, Perl

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น